เมนู

พระยายมถามอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเจริญ ท่านนั้น รู้ความ มีสติ
เป็นผู้ใหญ่แล้ว ได้มีความดำริดังนี้บ้างไหมว่า จำเริญละ เป็นอันว่า สัตว์ที่
ทำกรรมลามกไว้นั้น ๆ ย่อมถูกลงกรรมกรณ์ต่างชนิดเห็นปานนี้ในปัจจุบัน จะ
ป่วยกล่าวไปไยถึงชาติหน้า ควรที่เราจะทำความดีทางกาย ทางวาจา และทาง
ใจ.
สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่อาจ เจ้าข้า มัวประมาทเสีย เจ้าข้า.
พระยายมกล่าวอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้ทำความดี
ทางกาย ทางวาจา และทางใจไว้ เพราะมัวประมาทเสีย ดังนั้น เหล่านาย
นิรยบาลจักลงโทษโดยอาการที่ท่านประมาทแล้ว ก็บาปกรรมนี้นั่นแล ไม่ใช่
มารดาทำให้ท่าน ไม่ใช่บิดาทำให้ท่าน ไม่ใช่พี่น้องชายทำให้ท่าน ไม่ใช่พี่
น้องหญิงทำให้ท่าน ไม่ใช่มิตรอำมาตย์ทำให้ท่าน ไม่ใช่ญาติสาโลหิตทำให้
ท่าน ไม่ใช่สมณะและพราหมณ์ทำให้ท่าน ไม่ใช่เทวดาทำให้ท่าน ตัวท่านเอง
ทำเข้าไว้ ท่านเท่านั้นจักเสวยวิบากของบาปกรรมนี้.

ว่าด้วยเทวทูตที่ 5


[511] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระยายมครั้นปลอบโยน เอาอกเอาใจ
ไต่ถามถึงเทวทูตที่ 4 กะสัตว์นั้นแล้ว จึงปลอบโยน เอาอกเอาใจ ไต่ถามถึง
เทวทูตที่ 5 ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 5 ปรากฏใน
หมู่มนุษย์หรือ.
สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่เห็นเลย เจ้าข้า.
พระยายมถามอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นหญิง
หรือชายที่ตายแล้ววันหนึ่ง หรือสองวัน หรือสามวัน ขึ้นพอง เขียวช้ำ มี
น้ำเหลืองเยิ้มในหมู่มนุษย์หรือ.